การจัดการเรียนการสอนที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์
การสร้างสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่มีการปฏิสัมพันธ์สำหรับครูในอนาคต
เทคโนโลยีทางด้านการจัดการศึกษามีนวัตกรรมหลายด้าน ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนและวิธีการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้และวิธีการสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันที่ดูเหมือนในชีวิตจริง คือการรวมกันระหว่างการสอนและการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ที่สนับสนุนด้วยเครื่องมือเทคโนโลยี
การวางแผนระบบกับการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตเพื่อจัดหาช่องทางสำหรับนักเรียนและครู
คือ การสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ นวัตกรรมในการช่วยให้บรรลุผลประกอบด้วย
กระดานโต้ตอบและเครื่องมือWeb 2.0 หากประกอบด้วยสองสิ่งนี้ก็จะสามารถสร้างช่องทางการโต้ตอบทั่วโลก
เปิดโอกาสให้ครูได้ใช้ความสามารถในการสอนในสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์
Theoretical Framework (กรอบทฤษฎี)
ความเหมือนกันของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงการศึกษาเสมอคือ การเปลี่ยนแปลงของสถานที่
หลักสูตรใหม่ถูกแนะนำ
และเทคโนโลยีใหม่ได้จำกัดความใหม่เกี่ยวกับว่าเราจะสอนและเรียนอย่างไร การใช้เทคโนโลยีในชั้นเรียนยังคงมีอยู่กับเครื่องมือเหล่านี้
เช่น โทรทัศน์และโปรเจ็กเตอร์
ระบบที่เสนอการสร้างวิธีการสอนที่ดีกว่า
การเปลี่ยนแปลงประเภทของการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนวิธีการสอนและเรียนรู้ไปสู่สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์
ขอบข่ายถูกประยุกต์ไปยังรูปแบบการสอนใหม่
รู้เกี่ยวกับการสอนและเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ การแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องกับทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
ฮาร์ดแวร์ที่สามารถโต้ตอบ และเครื่องมือ Web 2.0 ซึ่งรูปภาพข้างล่างนี้
จะแสดงถึงส่วนประกอบและการปฏิบัติการของครูและนักเรียน
เค้าโครงนี้ยังถูกประยุกต์ไปยังระดับ k-12 และยืดหยุ่นสามารถรวมถึงเครื่องมือต่างๆ
ด้วย เค้าโครงนี้ คือ
การรวมกันของทฤษฎีการเรียนรู้และเครื่องมือที่รวมทั้งหลักคอนสตรัคติวิสต์
การสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์ การเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ เครื่องมือแบบมีปฏิสัมพันธ์
และการมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบระหว่างครูและนักเรียน
Constructivism (ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์)
ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ประกอบด้วยการเรียนรู้หรือการสร้างความรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการแสดงออกของสิ่งแวดล้อมหรือประสบการณ์ของพวกเขา
ซึ่งเกิดขึ้นภายในสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น
กระดานโต้ตอบเน้นแนวคิดพื้นฐานของทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ นั่นก็คือ
การมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น
Interactive Teaching (การสอนแบบโต้ตอบ)
การสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์เริ่มต้นจากปรัชญาเกี่ยวกับการสอนที่ใช้เทคโนโลยีและผลของวิธีการใหม่ในการเรียนการสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์
ซึ่งรวมถึงทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ กระดานโต้ตอบ และเครื่องมือ Web
2.0 คือ 1 รูปแบบในการคิดเกี่ยวกับวิถีการสอนใหม่
ในกรอบนี้ทั้งครูและนักเรียนเป็นจุดศูนย์กลางในการลงมือปฏิบัติ
โดยครูมีหน้าที่ในการวางแผน สอนและจัดลำดับการสนับสนุนให้โต้ตอบกับเทคโนโลยี นักเรียนมีหน้าที่ในการสร้างและชี้แจงความรู้เช่นเดียวกับการร่วมมือกับเพื่อนในการสร้างความรู้ขึ้นมา
Interactive Learning (การเรียนแบบโต้ตอบ)
การเรียนแบบเก่า
นักเรียนจะนั่งและรับเอาความรู้จากครูที่สอนและเขียนบนกระดาน
การเรียนแบบมีปฏิสัมพันธ์จะหมายถึงการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในวิธีการเรียนรู้
ในสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้จะบูรณาการให้มีกระดานโต้ตอบ
ผู้เรียนจะให้ความสำคัญกับการกระตุ้นให้แสดงออกโดยครูในกระดานโต้ตอบ
เช่นเดียวกับทางคำพูดและทางกาย การมีปฏิกิริยากับกระดานโต้ตอบ
Interactive Tools (เครื่องมือในการโต้ตอบ)
กระดานโต้ตอบ คล้ายกับอย่างที่รู้
คือกระดานดำอิเล็กทรอนิกส์ที่มีจอแสดงผลซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลายขนาดโดยบริษัทแตกต่างกัน
อย่างเช่น Sony Promethean และอื่นๆ
กระดานโต้ตอบมี 2 การทำงานที่แตกต่างกัน คือ
แสดงผลและการใช้โต้ตอบกัน ในส่วนของเครื่องมือแสดงผล
ครูจะสามารถแสดงไฟล์เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Software หรือ ทรัพยากรอินเทอร์เน็ต
ซึ่งกระดานโต้ตอบนี้สามารถให้ผู้ใช้เขียนและจัดการสิ่งต่างๆ ที่ประกอบด้วยภาพและตัวหนังสือได้
โดยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB และโปรเจ็กเตอร์ไปยังคอมพิวเตอร์
อีกทั้งมีข้อได้เปรียบว่าสามารถใช้ในห้องเรียนเพื่อการจัดการที่ยืดหยุ่นในการสื่อสารกับบทเรียน
สนับสนุนนักเรียนให้โต้ตอบกับเนื้อหา
จัดให้เห็นชัดเจนเกี่ยวกับกรอบแนวคิดของผู้เรียนได้ดีกว่า
และมีแรงผลักดันให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มากกว่า
เครื่องมือ Web 2.0 จะเกี่ยวกับชุมชนสังคมและความสามารถในการมีส่วนร่วมไปยังการมีปฏิสัมพันธ์ใน Web
based ผู้สนทนาใน Web 2.0 เช่น
คนที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้น แสดงต่อสาธารณะ สร้างสรรค์ แสดงบทบาท และอื่นๆ
เป็นต้น
Interactive Boards + Web 2.0 Tools (กระดานโต้ตอบและเครื่องมือweb
2.0)
เป็นการเรียนรู้ไปกับเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สำหรับการแสดงผลที่เป็นมาตรฐานสากลของนักเรียนและเทคโนโลยี
การบูรณาการเทคโนโลยีทำให้เข้าใจว่าหลักสูตรวิธีการนั้นสนับสนุนการพัฒนาของการสอนหลักปรัชญาให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่เราสามารถและเลือกสนใจประสิทธิภาพของครูที่มีประสบการณ์ในการใช้การสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์ที่สนับสนุนด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยี ทำให้วิเคราะห์ในกระบวนการเริ่มต้นกับนักศึกษาครู สถาบันการศึกษาเชื่อว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่มีนักศึกษาฝึกสอนก่อนการควบคุมที่เกิดขึ้นจริงในห้องเรียนส่วนบุคคล ดูเหมือนว่าครูฝึกสอนต้องยึดความซับซ้อนในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์ เป็นการสร้างการสอนที่มีปฏิสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องมีทักษะการใช้เทคโนโลยี แต่ครูต้องคำนึงถึงมุมมองทางปัญญาที่ใช้เทคโนโลยีในการสอนและการสร้างแบบฝึกหัด คือผสมผสานเทคโนโลยีในวิธีการสอนด้วย
กรอบแนวคิดของวิธีการและหลักสูตรพื้นฐานควรเน้นในด้านของเทคโนโลยี คือ การวางแผนที่ครบถ้วน การออกแบบ การจัดเตรียมอุปกรณ์ และการประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน หลักสูตรในอนาคตต้องมีเทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์อยู่ หากครูฝึกสอนไม่เข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดของสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่มีปฏิสัมพันธ์แล้วละก็จะไม่สามารถพัฒนาไปเป็นครูในโรงเรียนได้ หลักสูตรเทคโนโลยีปกติควบคู่กับการผสมผสานหลักสูตรวิธีการเทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์จะสร้างให้ครูได้เตรียมพร้อมจากห้องเรียนไปสู่สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่มีปฏิสัมพันธ์ ในทางนี้หลักสูตรการศึกษาจะสามารถเปลี่ยนครูในอนาคตไปสู่ห้องเรียนสิ่งแวดล้อมได้
เป็นการเรียนรู้ไปกับเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สำหรับการแสดงผลที่เป็นมาตรฐานสากลของนักเรียนและเทคโนโลยี
การบูรณาการเทคโนโลยีทำให้เข้าใจว่าหลักสูตรวิธีการนั้นสนับสนุนการพัฒนาของการสอนหลักปรัชญาให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่เราสามารถและเลือกสนใจประสิทธิภาพของครูที่มีประสบการณ์ในการใช้การสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์ที่สนับสนุนด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยี ทำให้วิเคราะห์ในกระบวนการเริ่มต้นกับนักศึกษาครู สถาบันการศึกษาเชื่อว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่มีนักศึกษาฝึกสอนก่อนการควบคุมที่เกิดขึ้นจริงในห้องเรียนส่วนบุคคล ดูเหมือนว่าครูฝึกสอนต้องยึดความซับซ้อนในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์ เป็นการสร้างการสอนที่มีปฏิสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องมีทักษะการใช้เทคโนโลยี แต่ครูต้องคำนึงถึงมุมมองทางปัญญาที่ใช้เทคโนโลยีในการสอนและการสร้างแบบฝึกหัด คือผสมผสานเทคโนโลยีในวิธีการสอนด้วย
กรอบแนวคิดของวิธีการและหลักสูตรพื้นฐานควรเน้นในด้านของเทคโนโลยี คือ การวางแผนที่ครบถ้วน การออกแบบ การจัดเตรียมอุปกรณ์ และการประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน หลักสูตรในอนาคตต้องมีเทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์อยู่ หากครูฝึกสอนไม่เข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดของสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่มีปฏิสัมพันธ์แล้วละก็จะไม่สามารถพัฒนาไปเป็นครูในโรงเรียนได้ หลักสูตรเทคโนโลยีปกติควบคู่กับการผสมผสานหลักสูตรวิธีการเทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์จะสร้างให้ครูได้เตรียมพร้อมจากห้องเรียนไปสู่สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่มีปฏิสัมพันธ์ ในทางนี้หลักสูตรการศึกษาจะสามารถเปลี่ยนครูในอนาคตไปสู่ห้องเรียนสิ่งแวดล้อมได้
อ้างอิง
Sessoms.D,(2008).
Interactive instruction: Creating interactive learning environments through
tommorow’s teachears. International Journal of Technology in Teaching
and Learning, 4(2), 86-96.
รูปภาพจาก
http://taamkru.com/th/จากแท็บเล็ต-สู่เทคโนโลยีการศึกษา-ตอนที่2
รูปภาพจาก
http://taamkru.com/th/จากแท็บเล็ต-สู่เทคโนโลยีการศึกษา-ตอนที่2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น